กระ (Freckle)
คือ จุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ
สามารถเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ไม่ว่าอายุจะน้อยหรือมากแค่ไหนก็สามารถเกิดได้ หากเราโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้นกระจึงสามารถเกิดได้ทั่วทั้งร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำคอ
หรือแขน
ความจริงแล้ว "กระ" เกิด
จากการที่ผิวถูกแสงแดด
ทำลายสะสมมาเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้รับการปกป้องใด ๆ หรือบำรุงอย่างต่อเนื่อง
ทำให้บางครั้งเราเห็นว่ามีเม็ดสีจุดเล็ก ๆ ชัดเจนขึ้นทั้งที่เรายังอายุไม่เยอะ
แต่กรณีที่พบตอนอายุมากแล้ว
อยากให้รู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดปกติของโรค แต่เป็นกลไกหนึ่งที่ร่างกายแสดงออกมาว่าเซลล์เม็ดสีของเราเริ่มเสื่อมอายุลง แล้ว
** กระมี
4 ประเภท **
1. กระตื้น จุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร สามารถขึ้นได้ทั่วใบหน้า ถ้าโดนแดดบ่อย ๆ จะมีสีเข้มขึ้นชัดเจน
แต่ถ้าไม่ได้โดนแดดบ่อย
สีก็จะจางลงได้เอง
2. กระลึก จุดสีน้ำตาลเทา ๆ เห็นเป็นเงาลึก ๆ
มักพบบริเวณโหนกแก้ม 2 ข้าง
3. กระเนื้อ ตุ่มสีน้ำตาล หรือสีดำ สามารถเป็นได้ทั้งก้อนเล็ก
ๆ ผิวเรียบ หรือขรุขระ
อาจดูคล้ายหูด
มักพบบริเวณใบหน้า คอ หรือลำตัว กระชนิดนี้ รักษาด้วยยาไม่หาย นอกจากยิงเลเซอร์
4. กระแดด ขึ้น
เป็นดวงสีน้ำตาล
ผิวเรียบ ส่วนใหญ่พบในคนสูงอายุ หรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง และเป็นกระประเภทเดียวที่สามารถบรรเทาให้จางลงจนมองไม่เห็นได้
1. กระเทียม: หั่นให้มีขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว แปะเฉพาะบริเวณที่เป็นกระเท่านั้น แปะไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง แล้วล้างหน้าตามปกติ เว้นช่วงทำทุก ๆ 3 วัน
2. ว่านหางจระเข้
- เจลว่านหางจระเข้ บีบออกมาประมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วนวดบริเวณที่เป็นกระ วันละ 2 เวลา
- สมุนไพรว่านหางจระเข้ ตัดเอาส่วนวุ้นมาปั่นให้ละเอียด แล้วแต้มบริเวณที่เป็นกระเหมือนทาครีมได้เลย
- เจลว่านหางจระเข้ บีบออกมาประมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วนวดบริเวณที่เป็นกระ วันละ 2 เวลา
- สมุนไพรว่านหางจระเข้ ตัดเอาส่วนวุ้นมาปั่นให้ละเอียด แล้วแต้มบริเวณที่เป็นกระเหมือนทาครีมได้เลย
3. ใบกะเพราแห้ง: ปั่นใบกะเพราแห้งให้ได้ 3-4 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำต้มสุกลงไป 100 มิลลิกรัม คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปแช่เย็น ใช้ทา 2 ครั้งต่อวัน
4. น้ำเลมอน: คั้นน้ำเลมอน แต้มกระทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างหน้าออกตามปกติ ซับให้แห้ง อาจทาครีมบำรุงผิวหน้าที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวหน้าชุ่มชื้น
5. นมเปรี้ยว: แนะนำให้ใช้รสธรรมชาติ
เพราะมีปริมาณกรดแลคติกสูงกว่าชนิดที่มีรสชาติ ใช้แต้มที่กระเล็กน้อย
แล้วล้างหน้าออกตามปกติ
3 Steps to Prevent Freckles หากมีของเด็ดพวกนี้ติดตัว
กระไม่มา ฝ้าไม่มี!
1. เช็กดูส่วนประกอบ
ในครีมกันแดด
ค่า SPF สูง ๆ ก็สำคัญ แต่จะให้ดีลองเช็กข้อมูลข้างกล่องว่ามีสารต่อไปนี้หรือไม่
สาร Parsol 1789 หรือ อะโวเบนโซน
(avobenzone) และไททาเนียมไดออกไซด์
(titanium dioxide) และซิงก์
ออกไซด์ (zinc oxide) เพราะสารเหล่านี้เป็นพระเอกในการป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบีได้อย่างแน่นอน
2. เช็กดูสารเคมีอันตรายใกล้ตัว
สาว ๆ
เช็กนิดนึงว่าอาหารเสริม
ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นประจำมีสารเหล่านี้หรือไม่
Alpha hydroxyl
acids และ benzyls peroxide ถ้ามีอยากแนะนำให้ใช้น้อยลงมาหน่อย หรือหยุดใช้ไปเลย
เพราะสารเคมีเหล่านี้มักจะมาคู่กับแอลกอฮอล์เสมอ หากใช้เป็นประจำจะทำให้ผิวหน้าเราบางลง
หากโดนแดดเป็นเวลานาน ๆ
เราจะรู้ว่าหน้าร้อน
เหมือนผิวจะไหม้
สารอีกตัวหนึ่งที่อันตราย และควรใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์คือ Hydroquinone มักจะอยู่ในรูปของครีมลบเลือนฝ้า และกระ แพทย์นิยมเขียนใบสั่งยาให้กับคนใช้ที่มีปัญหาเป็นฝ้าทั้งใบหน้า กระทั้งหน้า หรือมีรอยสิวทั้งหน้า เพราะตัวยาชนิดนี้มีความเข้มข้นสูง ฝ้า กระ รอยสิวหายไวในเวลาอันสั้น แต่ผลข้างเคียงคือ ผิวบริเวณนั้น ๆ จะกลายเป็นบริเวณที่บอบบาง และแพ้ง่าย
สารอีกตัวหนึ่งที่อันตราย และควรใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์คือ Hydroquinone มักจะอยู่ในรูปของครีมลบเลือนฝ้า และกระ แพทย์นิยมเขียนใบสั่งยาให้กับคนใช้ที่มีปัญหาเป็นฝ้าทั้งใบหน้า กระทั้งหน้า หรือมีรอยสิวทั้งหน้า เพราะตัวยาชนิดนี้มีความเข้มข้นสูง ฝ้า กระ รอยสิวหายไวในเวลาอันสั้น แต่ผลข้างเคียงคือ ผิวบริเวณนั้น ๆ จะกลายเป็นบริเวณที่บอบบาง และแพ้ง่าย
3. ติดพร้อมเมื่อต้องออกไปข้างนอก
หลายตำราบอกว่า
แดดในช่วงเวลา 10 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น เป็นช่วงเวลาที่เราไม่ควรเอาผิวหน้าของเราไปเสี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องมีพร็อพสักเล็กน้อย
เช่น ร่ม หมวก แว่นกันแดด
สิ่งเหล่านี้ดูเผิน
ๆ อาจไม่สำคัญอะไร แต่เอาเข้าจริงก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งทีเดียว
อย่างร่มคันเล็ก ๆ ที่อย่างน้อยก็ยังเป็นร่มเงาให้หน้าเรา
ได้ปีกกว้าง ๆ ของหมวกช่วยป้องกันไม่ให้กระทบแสงแดดกับผิวหน้าโดยตรง
สิ่งสุดท้ายสาว ๆ ชอบมากคือแว่นกันแดด
แม้ว่าใส่แล้วดูเว่อร์เล็กน้อย (ดูดีขึ้นด้วย) ก็ใส่ไปเถอะอย่างน้อย ๆ
ก็ทำให้ดวงตาของเราไม่ต้องแสบตา เพราะแดดส่อง ฝุ่นละอองปลิวเข้าตา
เรียบเรียง : Timik
Credit:
http://www.womenshealthmag.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น