วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วิธีลดน้ำหนัก แบบทำได้จริงในชีวิตประจำวัน





ใครๆ ก็อยากผอม มันเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ก็เป็นเรื่องที่ทำยากหาใดเปรียบเช่นกัน แท้จริงแล้วการลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากแต่เป็นเรื่องที่ต้องพอเหมาะและเหมาะสม ทั้งสม่ำเสมออีกด้วย วิธีลดน้ำหนักมีมากมาย แต่อยู่ที่ว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะลดจริงๆหรือป่าว นี่คือวิธีลดน้ำหนัก สุดง่าย ที่คุณควรทำทุกวันเพื่อลดน้ำหนักได้ง่ายๆ ในชีวิตจริง 

1.บังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย
เลือกเวลาที่เราคิดว่าเหมาะสมและสะดวกที่สุดในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ เลือกเอาค่ะ สักเวลาหนึง ข้อให้ได้ออกกำลังกาย 15-20 นาทีก็ยังดี ค่อยๆทำให้ติดเป็นนิสัย ให้การออกกำลังกายซึมเข้ามาเป็นกิจกรรมส่วนหนึงของชีวิตเราค่ะ

2.หลีกเลี่ยงการออกกำลังแบบโหด
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักจนเกินไป เอาในแบบที่พอดี ใหม่ๆก็จะยังไม่ชินกับการออกกำลังกายพอเริ่มทำจนชินบางท่านอาจจะโหมออกกำลังกายแบบหนักจนเกินไปทำให้บาดเจ็บได้ง่าย และหิวหนักกว่าเดิม
 
 3.กินอะไรก็ได้อย่างนั้น
ถ้ากินแบบพอดี รักษาเสถียรภาพของการกินให้เป็นผักผลไม้เป็นประจำ อาหารแต่ละมื้อก็ควรควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ง่ายๆ ว่าทุกมือมันจะต้องไม่ Fat นะ และก็ไม่ทรมานตัวเอง ทานแล้วมีความสุขไม่ได้ถูกใครบังคับให้ทาน เรามีเป้าหมายคือลดความอ้วนเอา Fat ออก  

4.หากิจกรรมออกกำลังที่คุณอยากทำ
มันอาจจะแปลกนะ แต่คุณจะไม่บ่นถ้าคุณได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำ ลองคิดเล่นๆ ว่าคุณอยากทำอะไรเพื่อเป็นการออกกำลังกาย บางคนชอบขี่จักรยาน โยคะ แอโรบิค ต่อยมวย แต่เอาที่คุณสบายใจจะทำมัน คุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยล่ะ อ้อ แล้วอย่าลืมทำมัน อย่างน้อยครั้งละ 30- 40 นาทีล่ะ

5.ศึกษาประโยชน์ของอาหารต่างๆ
 เราควบคุมอาหารก็ต้องดูที่มาที่ไป ส่วนประกอบ ส่วนผสมมีอะไรบ้าง มีไขมันเท่าไร น้ำตาลเท่าไร ลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่ควรละเลย คุณเองก็จะควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
 
6. เลือกที่จะเดินซะมากกว่า
อันนี้อาจจะแลดูลำบากไปหน่อย เอาที่สบายใจดีกว่า จากที่เคยต้องนั่งรถไฟฟ้าไปป้ายนึง ลองเปลี่ยนเป็นการเดินไปก็ได้เหงื่อเบาๆ เดินไปฟังเพลงไป เพลินๆ คุณก็ออกกำลังกายได้แล้ว อย่างน้อยก็ 200 แคลอรี่เชียวนะ

7. ถ้าไปกินมื้อนอกบ้าน คุณจงเป็นคนคิดแพลน
ถ้าต้องให้เพื่อนคนอื่นคิด มีหวัง คุณได้กินปิ้งย่างมื้อใหญ่ หรือ อาหารทอดๆ เป็นแน่แท้ ถ้าเพื่อนเอ่ยปากชวนล่ะก็ รีบสรรหาเมนูสุขภาพ หรือร้านอาหารที่มีผัก สลัด ให้เพื่อนทันที ถ้าเพื่อนไม่ไปล่ะก็ ก็ปฏิเสธไป จุดหมายเรามีไว้ให้พุ่งชนนะ แต่ถ้าทั้งเดือนยังไม่ได้ทานอะไรเป็น cheat day ก็ลุยซะ

      ค่อยๆ ลดไปค่ะ ไม่ต้องเร่งรีบ เราสะสมมาตั้งนาน ลดน้ำหนักก็ต้องใช้เวลาเป็นธรรมดา


เรียบเรียง : Timik
Credit : elitedaily

วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

5 โรคกับสาวๆ วัย 30 Up อย่าลืมตรวจ



          สาววัย 30 Up มีปัญหาสุขภาพอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษกันบ้าง มาดูกันค่ะ
          สาว ๆ ในช่วงอายุ 30 ปี แนะนำให้มาตรวจเป็นพิเศษในเรื่องโรคนรีเวชเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากการตรวจสุขภาพประจำปีตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ก็มีการตรวจในเรื่องมะเร็งเต้านม เรื่องการปวดท้องประจำเดือน ประจำเดือนผิดปกติ แล้วก็เรื่องของการตกขาว

          มะเร็งปากมดลูก จัดเป็นมะเร็งอันดับสองที่ผู้หญิงไทยเป็นมากที่สุด รองลงมาจากมะเร็งเต้านมเลยทีเดียว ซึ่งมะเร็งชนิดนี้น่ากลัวตรงที่ไม่มีการแสดงอาการอะไรเลยในระยะเริ่มต้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้ เราสามารถที่จะตรวจคัดกรองได้ว่าคุณมีความเสี่ยงหรือไม่ และตอนนี้ก็มีการศึกษาพบแล้วว่ามะเร็งชนิดนี้เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ตลอดจนคิดค้นวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคนี้ได้แล้ว โดยสามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนถึง 55 ปี โดยฉีดทั้งหมด 3 เข็ม และคาดการณ์กันว่า อย่างน้อยที่สุดจะป้องกันเชื้อได้ 20 ปีจนถึงตลอดชีวิต

          มะเร็งเต้านม สำหรับสาววัยเลขสามยังไม่จำเป็นต้องทำแมมโมแกรม เนื่องจากกล้ามเนื้อจะยังแข็งอยู่ หากทำแมมโมแกรมในช่วงนี้จะเจ็บมาก คุณหมอจะแนะนำให้ทำในช่วงอายุ 40 แล้วมากกว่า เว้นเสียแต่ว่ามีประวัติคนใกล้ชิดในครอบครัว เช่น พี่สาว คุณแม่ คุณป้า คุณยาย เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน ก็อาจจะต้องเจ็บตัวสักเล็กน้อย หรือไม่ก็อาจจะใช้การอัลตร้าซาวนด์ดูภายในเต้านมก็ได้

          ปวดท้องประจำเดือน สาว ๆ หลายคนอาจจะเห็นว่าการปวดท้องประจำเดือนเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วอาการนี้อาจกำลังบ่งบอกว่าคุณมีช็อกโกแลตซีสต์ หรือไม่ก็อาจส่งผลต่อการมีลูกก็ได้ แนะนำว่าหากปวดท้องมากทุกครั้งที่ประจำเดือนมาก็ควรจะมาทำการอัลตร้าซาวนด์ดูมดลูก เพื่อตรวจดูว่าเกิดจากโรคอะไรหรือไม่

          ประจำเดือนผิดปกติ ในที่นี้หมายถึงมาไม่สม่ำเสมอ ประมาณว่าอยู่ ๆ ประจำเดือนก็ขาดไป 2-3 เดือน บางทีอาจจะมามากเกินไปหรือนานเกินไป โดยสังเกตได้จากผ้าอนามัยที่เราใช้ว่าเราใช้มากกว่าปกติหรือเปล่า และปกติแล้วเราจะมีประจำเดือนเต็มที่ก็หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และหากประจำเดือนมาน้อยกว่าปกตินั้นอาจจะส่งผลต่อการมีลูก แต่ไม่มีปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพแน่นอน

          การตกขาวผิดปกติ การตกขาวเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปตามฮอร์โมน อาจจะมีสีขาวหรือสีเหลืองนวลก็ได้ แต่สีที่ผิดปกติจริง ๆ คือ สีออกเขียว หรือเหลืองเข้มจนเหมือนสีหนองและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หากพบว่าตกขาวของคุณเป็นเช่นนี้ ก็ควรมาพบแพทย์ อย่าคิดว่าเกิดจากการอักเสบหลังมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น เพราะร่างกายอาจจะกำลังสื่ออันตรายอะไรมากกว่าที่คุณคิด
เรียบเรียง : Timik
Credit: Lisa Weekly

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อาหารลดความอ้วน หรือ ยิ่งกินยิ่งอ้วน





มาตรวจดูฉลากด้านหลังอาหารควบคุมน้ำหนักที่เราทานกันดีกว่าค่ะ ว่ามีน้ำตาลจำพวกนี้ผสมอยู่ไหม เช่น Modified food starch (แป้งดัดแปลง), maltodex-trin (แป้งจากธัญพืช), cane sugar (น้ำตาล), crystallized cane juice (น้ำตาลผลึก), evaporated cane juice (น้ำตาลทราย), honey (น้ำผึ้ง), tapioca syrup (น้ำเชื่อม), brown sugar (น้ำตาลทราย), brown rice syrup (น้ำเชื่อมอีกประเภทนึง), barley (ข้าวบาเลย์), หรือส่วนผสมอื่นๆ ที่มีชื่อลงท้ายด้วยคำว่า "ose".
                 อาหารที่มีส่วนผสมเหล่านี้มีอะไรบ้าง มีทั้งหมด 8 อย่างเบาๆ เราจะพาไปรู้จักทีละอย่างนะคะ จะได้ไม่หลงกล กินเพื่อลดน้ำหนัก แต่กลับยิ่งกินยิ่งอ้วน


1. ซีเรียล

 ซีเรียลที่ไม่มีตัวการ์ตูนอยู่บนหน้ากล่อง ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะไม่อ้วนนะ พวกซีเรียลที่หน้ากล่องอ้างว่า 0% แคลอรี มีรูปหัวใจแข็งแรงแปะไว้เด่นๆ หรือมีตราเหรียญทองรับรองสุขภาพอะไรเทือกๆ นั้น ก็ไม่ได้ทำให้มันกลายเป็นอาหารลดน้ำหนักแต่อย่างใด เพราะใน 1 ถ้วยที่เรากิน บางยี่ห้อมีน้ำตาลเยอะกว่าพวกซีเรียลที่หน้ากล่องเป็นการ์ตูน แล้วมีหลากสีเสียอีก
                  ทางเลือกที่ดีคือ เลือกซีเรียลที่เน้นไฟเบอร์เยอะๆ และมีสัดส่วนเยอะกว่าน้ำตาล (ลองเปรียบเทียบกับหลายๆ ยี่ห้อ) เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น 


2. ซีเรียลธัญพืช
                  คนเรามักจะเชื่อสนิทใจว่าอาหารหรือขนมที่จะซื้อนั้นไม่อ้วน ถ้าได้รับการรับรองจากกลุ่มหรือองค์กรสุขภาพอะไรสักอย่าง (ประเภทมีตรา fitness ที่เราไม่เข้าใจ แปลไม่ออก แปะไว้หน้ากล่อง)
                  ขอบอกว่าเจ้าพวกนี้แหละ ที่ควรจะสงสัยเอาไว้ก่อนเลย โดยเฉพาะเวลาจะซื้อซีเรียลธัญพืช เชื่อไหมว่า ซีเรียลธัญพืชที่วางขายเกือบทั้งหมด ถ้ากินไป 1 ชาม เราจะได้ปริมาณน้ำตาล เกือบจะเท่าคุ้กกี้ 1 ถาด!!! 

          ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า น้ำตาลเยอะขนาดนี้ พวกธัญพืชซีเรียลทั้งหลาย ยังพยายามทำให้คนเชื่อว่าเป็นอาหารลดน้ำหนัก นี่มันอ้วนพอๆ กับกินช็อกโกแลตแท่งเลยนะ




3. ขนมปังวีต (Wheat Bread)
                  คนเราชินกับขนมปังแผ่นขาวๆ นุ่มๆ มากกว่า จึงไม่แปลกที่หลายคนจะกินขนมปังวีต หรือโฮลวีตแทบไม่ได้ เนื่องด้วยความแข็งและรสชาติอย่างกับกินดิน แต่ยังไงก็ต้องกล้ำกลืนกินเข้าไป เพราะรับรู้มาว่ามันดีต่อสุขภาพและไม่อ้วน
                  ด้วยเหตุนี้เอง บริษัทผู้ผลิตขนมปังโฮลวีตทั้งหลาย ที่กลัวจะเสียลูกค้าไป จึงจงใจผสมน้ำตาลลงไป เพื่อกลบรสชาติแปลกเฝื่อนของมัน และทำให้คล้ายกับขนมปังขาวๆ นุ่มๆ พวกนั้น
                  แน่นอน...ผลก็คือ มันก็อ้วนพอๆ กับขนมปังขาวนั่นแหละ




4. แครกเกอร์
                  ขนมปังอบแห้งแข็งๆ แผ่นเล็กที่มักจะไม่มีรส หรือมีรสเค็ม รู้ไหมว่ามันก็มีน้ำตาลผสมอยู่ด้วย จริงๆ แล้วน้ำตาลที่ใส่เข้าไปนั้นไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่ แต่ปัญหามันเกิดก็ตรงที่น้ำตาลมาเจอกับแป้งล้วนๆ นี่แหละ
                  แครกเกอร์ผลิตจากแป้งล้วนๆ เมื่อกินเข้าไปแล้ว มันจะกลายเป็นแป้งชนิดย่อยเร็ว บวกกับน้ำตาลที่ผสมอยู่ด้วย ทำให้ตับอ่อนของเราต้องทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อปล่อยอินซูลินจำนวนมากออกมารักษาระดับน้ำตาลในเลือด
                  ในร่างกายปกติ มันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าร่างกายใครไม่ปกติ โดยเฉพาะมีปัญหาเรื่องตับ หรือเป็นเบาหวาน รับรองว่าเกิดปัญหาใหญ่แน่ ทางแก้ถ้าอยากกินมากๆ ก็คือ ควรหาแครกเกอร์แบบไร้น้ำตาลมากินแทน ซึ่งก็ต้องอ่านฉลากส่วนผสมให้ดีๆ



5. อาหารเสริมแบบแท่ง
                  ยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงไม่แปลกที่อาหารเสริม (ซึ่งทุกคนเข้าใจไปเองว่า) อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่นๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้น
                  ซึ่งมันก็จริงนะ เจ้าแท่งอาหารเสริมพวกนี้มีโปรตีน ไฟเบอร์ สูงอย่างที่ผู้ผลิตอ้าง แต่ข่าวร้ายที่พี่อิงจะขอเสริมก็คือ น้ำตาลมันก็สูงมากด้วย! แล้วผู้ผลิตแก้ปัญหานี้ยังไง? เขาก็ซ่อนเจ้าน้ำตาลตัวร้ายไว้ภายใต้ชื่อหรูหราดูดีมีประโยชน์ เช่น crystalline fructose (ผลึกฟรุกโตส), brown rice syrup (น้ำเชื่อมข้าวแดง)
                  สิ่งเดียวที่ผู้บริโภคทำได้ก็คือ พยายามเลือกกินอาหารเสริมแบบแท่งที่มีโปรตีน ไฟเบอร์ รวมถึงไขมันที่มีประโยชน์ และมีน้ำตาลผสมอยู่น้อยที่สุด




6. โยเกิร์ต
                  มีเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนยังไม่เคยรู้ นมวัวเป็นผลผลิตจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียวที่มีรสหวานโดยธรรมชาติ ทำให้หลายๆ คนที่กำลังลดความอ้วนไม่ยอมดื่มนม แต่ไม่ยักจะหยุดกินโยเกิร์ต แถมยังชอบสุดๆ เวลาได้สัมผัสกับรสหวานนุ่มเย็นๆ ใจก็คิดไปว่ากินโยเกิร์ตไม่อ้วนๆ
                  เรื่องจริงก็คือ ถ้าเราไม่อ่านฉลากส่วนผสม เราจะไม่มีวันรู้เลยว่าโยเกิร์ตที่บอกว่าจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่เสริมแต่งเนี่ย มันธรรมชาติจริงไหม ซึ่งส่วนใหญ่ที่วางอยู่บนเชลฟ์มักจะผสมโน่นนี่มาแล้วแหละ เพื่อให้รสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภคมากขึ้น  
                  ผู้ผลิตมักจะดึงดูดความสนใจของคนซื้ออย่างเราๆ ด้วยคำว่า "99% Fat Free" หรือ "ไขมันต่ำหรือ "ไขมัน 0%" บน ฉลาก พอเห็นแบบนี้เราก็เบาใจ ไม่อ่านลิสส่วนผสม ซึ่งจริงๆ แล้วมันซ่อนไขมันอันตรายและน้ำตาลเอาไว้สูงมาก มากพอๆ กับกินขนมปังหวานๆ ก้อนนึงเลยทีเดียว



7. เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
                  น้อยคนจะคิดถึงอันตรายจากน้ำตาลปริมาณมากที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มพวกนี้ ผู้ผลิตมักโฆษณาว่าเครื่องดื่มของเขาดีต่อสุขภาพอย่างโน้นอย่างนี้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำจากธรรมชาติ เพิ่มพลังงาน คลายเครียด เต็มไปหมด แต่อย่างเดียวที่ผู้ผลิตไม่ยอมบอกก็คือ น้ำตาลที่ผสมอยู่ในแต่ละขวดสูงเกินมาตรฐานไปแค่ไหน
                  ทุกคนอาจแอบเถียงว่า ตอนดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที หรือร่างกายดีขึ้นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ให้รู้ไว้เถอะว่า ร่างกายก็ต้องทำงานหนักมากเพื่อรับมือกับปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มสูงอย่างผิด ปกติหลังจากดื่มเข้าไปแล้ว

                  แล้วอะไรมีประโยชน์ละ?...น้ำเปล่า กับน้ำชา (ชงเอง) ไง ที่สุดแล้ว

ก่อนซื้ออาหารคราวต่อไป อย่าลืมดูฉลากสารอาหารด้านหลังด้วยนะ เอาคร่าวๆ ก็พอ ว่าน้ำตาลสูงไหม มีไขมันที่เป็นอันตรายไหม ถ้าน้ำตาลสูงมากก็อย่าไปกินเลย กินผลไม้มีประโยชน์กว่า 

เรียบเรียง: Timik

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เคล็ดไม่ลับช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน




          “ทำไมฉันถึงอ้วนง่ายจัง” หลายคนอาจมีคำถามนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง บางคนอาจเคยสังเกตว่าแม้จะรับประทานอาหารเท่าๆ กับเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่ทำไมตนเองจึงมีน้ำหนักตัวเพิ่มและอ้วนง่ายกว่าเพื่อน สาเหตุหลักก็เนื่องมาจากการเผาผลาญพลังงานของร่างกายแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะเผาผลาญพลังงานน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้เรามีโอกาสอ้วนได้ง่ายกว่าตอนเป็นวัยรุ่น แต่ก็มีบางคนที่อายุยังน้อย แต่กลับมีระดับการเผาผลาญพลังงานต่ำเหมือนคนแก่ กินอะไรนิดหน่อยก็สะสมเป็นไขมันและอ้วนง่ายมาก ในขณะที่บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแม้อายุมากแล้ว เพราะร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานสูงพอๆ กับเด็กวัยรุ่น

          เคล็ดไม่ลับต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และส่งผลให้คุณสามารถลดอายุการเผาผลาญพลังงานลงมาเป็นหนุ่มสาวได้อีกแน่นอน

   > นอนเร็วขึ้น

            การศึกษาในประเทศฟินแลนด์ ได้ศึกษา ทดลองกับฝาแฝดสองคน และพบว่า คนที่นอนน้อยกว่าและมีความเครียดมากขึ้น จะมีไขมันมากกว่าอีกคน ที่นอนมากกว่าและไม่ค่อยมีความเครียด

> กินโปรตีน

 ร่างกายของคุณต้องการโปรตีนเพื่อรักษากล้ามเนื้อ คุณต้องกินโปรตีนเพื่อให้กล้ามเนื้อคงอยู่ ควรเลือกกินโปรตีนประเภท ลีนโปรตีน

> เลือกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค 

          แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเสมอไปที่จะหาซื้อ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค แต่มันก็ไม่ยากสำหรับคนรักสุขภาพจริงๆ และไม่อยากกินอะไรที่ปนเปื้อนสารเคมี ต่างๆ สารพิษที่ปนเปื้อนมานั้น อาจทำให้คุณลดน้ำหนักได้ยากขึ้น เพราะมันจะไปยุ่งเกี่ยวกับระบบเผาผลาญของคุณ

     >  ลุกขึ้น ยืนขึ้น

ถ้าคุณนั่งทำงานเป็นเวลานานอาจจะทำให้รอบเอวคุณใหญ่ขึ้น นักวิจัยมหาลัยมิสซูรี พบว่า ถ้าไม่มีการใช้งาน(4 ชั่วโมงหรือมากกว่า) จะทำให้ เอนไซม์ที่ควบคุมการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล ค่อยๆ ปิดตัวลง เพื่อให้เอนไซม์ทำงานและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน คุณควรเลิกนั่งเป็นระยะเวลานาน ให้ลุกยืนขึ้นบ้าง

     > ดื่มน้ำมากขึ้น

ดื่มน้ำมาก มีประโยชน์ เป็นสิ่งที่คนเรารู้กันดีอยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะไม่รู้ ประโยชน์ของการดื่มน้ำมากๆ มีมากมายยกตัวอย่างเช่น ลดความอยากอาหารทำให้เรากินน้อยลงน้ำหนักก็ลดลง ลดอาการปวดหัว ช่วยย่อยอาหาร ช่วยผิวใสสุขภาพดี และอีกมากมาย

     > กินพริก

หลังจากร่างกายได้กินพริกหรือสารสกัดจากพริก ร่างกายจะได้รับกรดแอสคอร์บิค จะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น หากเรากินพริกหรือสารสกัดจากพริกและควบคุมอาหาร ไม่กินอาหารขยะ จะทำให้เราลดน้ำหนักได้ผลดีขึ้น

     > ไม่อดอาหารเช้า

การกินอาหารเช้าที่ดี จะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารของคุณทำงานได้ดีทั้งวัน คนที่มองข้ามและอดอาหารเช้าหรือทานอาหารเช้าน้อยๆ มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคอ้วน

     > ดื่มกาแฟหรือชา

คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยเร่งการเผาผลาญอาหาร ทำให้น้ำหนักคุณลด การดื่มกาแฟกับชา ไม่ควรมีน้ำตาลเข้ามาเกี่ยวข้อง !

     > กินอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กเป็นสิ่งที่จำเป็นในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงช่วยกล้ามเนื้อให้เผาผลาญไขมัน หอย เนื้อสัตว์ ถั่ว ธัญพืช ผักขม เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก

    > กินวิตามินดี

วิตามินดี เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ แหล่งที่มาของวิตามินดี ก็เช่น ปลาทูน่า นม ธัญพืช และไข่

     >  ดื่มนม

มีหลักฐานว่าถ้าขาดธาตุแคลเซียมซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในผู้หญิงหาลายคน จะทำให้การเผาผลาญอาหารบางอย่างชะลอลง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคแคลเซียมผ่านนม เช่น นมไขมันต่ำ และ โยเกร์ตไขมันต่ำ อาจลดการดูดซึมไขมันจากอาหารอื่นๆ

               

เรียบเรียง : Timik
Credit:  ข้อมูลบางส่วนจาก http://www.18fat.com